ถอนผู้จัดการมรดก | บัญชีทรัพย์มรดก

ถอนผู้จัดการมรดกเพราะเหตุผู้จัดการมรดกไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาและตามแบบที่กำหนดไว้ ศาลอาจถอนผู้จัดการมรดกเพราะบัญชีทรัพย์มรดกเป็นสาระสำคัญในการแบ่งมรดก แม้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันที่ยังไม่ถึงที่สุดเพราะผู้ร้องอุทธรณ์นั้น คำสั่งดังกล่าวก็ผูกพันผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นคู่ความจนกว่าคำสั่งนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับหรืองดเสีย หากผู้จัดการมรดกไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาและตามแบบที่กำหนดไว้ ศาลมีอำนาจถอนผู้จัดการมรดกได้ ที่กฎหมายบัญญัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกดังกล่าวก็เพราะว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายมีอะไรบ้างนั้นเป็นเรื่องสำคัญ บัญชีทรัพย์นั้นต้องทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคน ซึ่งต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกนั้นด้วย ดังนั้นจึงมีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2541

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกัน เมื่อผู้คัดค้านมิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในส่วนที่ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายจึงถึงที่สุดแล้ว การที่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ผู้ร้องแต่เพียงผู้เดียวเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และยกคำร้องของผู้คัดค้านนั้น ไม่ว่าศาลอุทธรณ์จะพิพากษาคดีไปในทางใด ก็ไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิและหน้าที่ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายจึงมิใช่กรณีที่ยังไม่ทราบว่าใครจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แม้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันที่ยังไม่ถึงที่สุดเพราะผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวก็ผูกพันผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นคู่ความจนกว่าคำสั่งนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไขกลับหรืองดเสีย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลชั้นต้นและทราบคำสั่งแล้ว ถือว่าหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลได้เริ่มขึ้นแล้วในวันดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1716 ดังนั้นผู้ร้องและผู้คัดค้านจึงต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในสิบห้าวันนับแต่วันเริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามมาตรา 1728 ทั้งนี้ต้องทำบัญชีทรัพย์มรดกให้เสร็จภายในหนึ่งเดือนตามมาตรา 1729 และหากผู้จัดการมรดกไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาและ ตามแบบที่กำหนดไว้ มาตรา 1731 ก็บัญญัติให้ศาลมีอำนาจถอนผู้จัดการมรดกได้ การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกและเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกทั้งหมดรวมทั้งเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกแต่ผู้เดียว ยังไม่ทำบัญชีทรัพย์มรดก และแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทบ้างเลย ทั้งยังแสดงเจตนาที่จะไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกเช่นนี้ จึงมีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสุรพล วรธงไชย ผู้ตายเจ้ามรดก ต่อมาผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยสาเหตุภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมหรือตั้งผู้จัดการมรดกไว้ผู้ตายมีทรัพย์มรดกหลายรายการปรากฏตามบัญชีทรัพย์เอกสารท้ายคำร้องการจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านและนายศรีศักดิ์ชัย เป็นบุตรนอกกฎหมายของผู้ตาย ซึ่งผู้ตายได้รับรองแล้ว นายศรีศักดิ์ชัยมีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายคือเด็กชายอรรณพ วรธงไชย นายศรีศักดิ์ชัยถึงแก่ความตายก่อนผู้ตายเจ้ามรดก ผู้ร้องปิดบังทายาทและจำนวนทรัพย์มรดกไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกผู้คัดค้านเป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายและไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกขอให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง และตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายสุรพล วรธงไชย ผู้ตายร่วมกันโดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้ร้องอุทธรณ์

ระหว่างที่ศาลชั้นต้นยังไม่ส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 2ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ขอให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกและให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว

ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่า ยังไม่ต้องทำบัญชีทรัพย์มรดกเพราะคดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกยังไม่ถึงที่สุด การไม่ทำบัญชีทรัพย์มรดกไม่เสียหาย ขอให้ยกคำร้องขอของผู้คัดค้าน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิจารณาอุทธรณ์ทั้งสองฉบับรวมกันแล้วพิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านไม่โต้เถียงกันในชั้นฎีกาฟังเป็นยุติว่า ผู้ร้องเป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของนายสุรพล วรธงไชย ผู้ตาย มีบุตรด้วยกัน 1 คนคือ นางสาวอภิรดี วรธงชัย ส่วนผู้คัดค้านและนายศรีศักดิ์ชัย วรธงไชย เป็นบุตรนอกกฎหมายของผู้ตายซึ่งผู้ตายได้รับรองแล้วนายศรีศักดิ์ชัยมีบุตร 1 คน คือเด็กชายอรรณพ วรธงไชย นายศรีศักดิ์ชัย ถึงแก่ความตายไปก่อนแล้วผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2526 ผู้ตายมีทรัพย์เป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทหลายรายการ และผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมไว้ผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ และไม่ได้ถูกศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย หลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันแล้วผู้ร้องมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้เมื่อผู้คัดค้านนัดหมายให้ผู้ร้องไปประชุมเพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกผู้ร้องก็ไม่ไปประชุมโดยทนายความมีหนังสือแจ้งผู้คัดค้านว่าคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นผู้จัดการมรดก ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประชุมจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า มีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและผู้คัดค้านสมควรที่จะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาที่ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ ซึ่งผู้ร้องฎีกาว่า คดีตั้งผู้จัดการมรดกยังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ยังไม่ทราบว่าผู้ใดจะได้เป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องมิได้มีเจตนาไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดก เพราะเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกผู้ร้องได้ยื่นบัญชีทรัพย์ไว้แล้วทั้งทายาททราบดีว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายมีอะไรบ้างนั้นเห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันผู้คัดค้านมิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นแต่อย่างใด คำสั่งศาลชั้นต้นในส่วนที่ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายจึงถึงที่สุดแล้ว การที่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้ผู้ร้องแต่เพียงผู้เดียวเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และยกคำร้องของผู้คัดค้านนั้น ไม่ว่าศาลอุทธรณ์ภาค 2 จะพิพากษาคดีไปในทางใด ก็ไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิและหน้าที่ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายเลย จึงมิใช่กรณีที่ยังไม่ทราบว่าใครจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง แม้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันที่ยังไม่ถึงที่สุดเพราะผู้ร้องอุทธรณ์นั้น คำสั่งดังกล่าวก็ผูกพันผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นคู่ความจนกว่าคำสั่งนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับหรืองดเสีย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2537และทราบคำสั่งในวันนั้น อันถือว่าหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลได้เริ่มขึ้นแล้วในวันดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1716 ดังนั้นผู้ร้องและผู้คัดค้านจึงต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในสิบห้าวันนับแต่วันเริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดก ตามมาตรา 1728 ทั้งนี้ต้องทำบัญชีทรัพย์มรดกให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน ตามมาตรา 1729หากผู้จัดการมรดกไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาและตามแบบที่กำหนดไว้ มาตรา 1731 ก็บัญญัติให้ศาลมีอำนาจถอนผู้จัดการมรดกได้ ที่กฎหมายบัญญัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกดังกล่าวก็เพราะว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายมีอะไรบ้างนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้ร้องอ้างว่าเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายก็ได้ยื่นบัญชีทรัพย์ต่อศาลทายาทจึงทราบแล้วว่าทรัพย์มรดกมีอะไรบ้างนั้น บัญชีทรัพย์ที่ผู้ร้องยื่นต่อศาลขณะร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ไม่ใช่บัญชีทรัพย์มรดกที่ผู้จัดการมรดกจะต้องลงมือจัดทำให้แล้วเสร็จภายหลังที่ได้รับแต่งตั้งจากศาลให้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1728 และ 1729 โดยที่ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ร้องครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายทั้งหมด ทรัพย์มรดกที่ให้ผู้เช่าผู้ร้องก็เป็นผู้เก็บค่าเช่าตลอดมา ผู้ตายถึงแก่ความตายตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2534 แต่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกและเป็นผู้ครอบครองรวมทั้งเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกแต่ผู้เดียวยังไม่ทำบัญชีทรัพย์มรดก และแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทบ้างเลย ทั้งยังแสดงเจตนาที่จะไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกดังปรากฎตามเอกสารหมาย ค.15 เช่นนี้จึงมีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ปัญหาวินิจฉัยประการต่อไปที่ว่า ผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ เห็นว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรนอกกฎหมายของผู้ตาย ซึ่งผู้ตายได้รับรองแล้ว ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมไว้ ผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเป็นผู้จัดการมรดก ประกอบกับได้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายดังที่วินิจฉัยข้างต้นแล้วจึงสมควรให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อไป

ที่ผู้ร้องฎีกาทำนองว่า หากผู้คัดค้านได้เป็นผู้จัดการมรดกจะทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทของผู้ตายนั้นไม่ปรากฏหลักฐานยืนยันข้ออ้างดังกล่าว เป็นเรื่องที่ผู้ร้องคาดหมายเอาเอง เพราะกฎหมายได้บัญญัติวิธีจัดการและปันทรัพย์มรดกเอาไว้ ซึ่งผู้จัดการมรดกจะต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว
พิพากษายืน

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 145 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่า ด้วยการอุทธรณ์ฎีกาและการพิจารณาใหม่ คำพิพากษาหรือคำสั่งใด ๆ ให้ถือว่าผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษาหรือมี คำสั่งนับตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งจนถึงวันที่คำพิพากษาหรือ คำสั่งนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสีย ถ้าหากมี
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1716 หน้าที่ผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้ง ให้เริ่มนับแต่วันที่ได้ฟัง หรือถือว่าได้ฟังคำสั่งศาลแล้ว
มาตรา 1728 ผู้จัดการมรดกต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดก ภายในสิบห้าวัน
(1) นับแต่เจ้ามรดกตาย ถ้าในขณะนั้นผู้จัดการมรดกได้รู้ถึงการ ตั้งแต่งตามพินัยกรรมที่มอบหมายไว้แก่ตน หรือ
(2) นับแต่วันที่เริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดกตาม มาตรา 1716 ในกรณีที่ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดก หรือ
(3) นับแต่วันที่ผู้จัดการมรดกรับเป็นผู้จัดการมรดกในกรณีอื่น
มาตรา 1729 ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่เวลาที่ระบุไว้ใน มาตรา 1728 แต่กำหนดเวลานี้ เมื่อผู้จัดการมรดกร้องขอก่อนสิ้นกำหนดเวลาหนึ่งเดือนศาลจะอนุญาต ให้ขยายต่อไปอีกก็ได้
บัญชีนั้นต้องทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคน ซึ่งต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกนั้นด้วย
บุคคลซึ่งจะเป็นพยานในการทำพินัยกรรมไม่ได้ตาม มาตรา 1670 จะเป็นพยานในการทำบัญชีใด ๆ ที่ต้องทำขึ้นตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายนี้ไม่ได้

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US