เจ้าพนักงานตำรวจใช้อาวุธปืนยิงพวกที่กระโดดคร่อมและจ้วงแทง เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2512
ป.อ. มาตรา 68, 288
ป.วิ.อ. มาตรา 78, 81, 92, 96

จำเลยกับพวกซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงนายสิบและพลตำรวจ. เข้าไปในบ้านของ ฉ.ในเวลากลางคืน เพื่อจับกุมผู้ตายซึ่งเป็นคนร้ายสำคัญตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา. โดยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องการจับการค้น. ถ้าผู้ตายขัดขืนก็เพียงแต่ไม่มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเท่านั้น. ไม่มีสิทธิหรืออำนาจชอบธรรมอันใดที่จะใช้อาวุธทำร้ายจำเลย.เพราะจำเลยพูดกับผู้ตายขอจับกุม. ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไรลงไป. แต่ผู้ตายใช้มีดแทงจำเลย. จำเลยจึงกระทำการป้องกันชีวิตตน. เมื่อเป็นการพอสมควรแก่เหตุ. จำเลยย่อมไม่ต้องรับโทษ.


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นฟังว่า ผู้ตายเป็นผู้ร้ายสำคัญ จำเลยกับพวกไปทำการจับกุม แต่ผู้ตายกลับใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงจำเลยก่อนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเลยจึงจำต้องใช้อาวุธปืนยิงสวนไปเพื่อป้องกันชีวิตตนเอง แม้จะเป็นการจับกุมในที่รโหฐาน เจ้าของบ้านก็ได้อนุญาตให้เข้าตรวจค้นจับกุมได้ จำเลยเชื่อว่ามีอำนาจจับกุมผู้ตาย ย่อมได้รับยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 70 การกระทำของจำเลยไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 จำเลยไม่ต้องรับโทษ ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นรับฎีกาเฉพาะข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยกับพวกซึ่งมียศเพียงนายสิบและพลตำรวจเข้าไปทำการจับกุมผู้ตายในบ้านของนายแฉล้มในเวลากลางคืนตามลำพัง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายจริง ข้อนี้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยเชื่อว่าคำสั่งของพันตำรวจตรีชุ่มสินและร้อยตำรวจตรีมนตรีเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งศาลฎีกาต้องฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายสำคัญตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาแม้จำเลยจะมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องการจับการค้น ถ้าผู้ตายซึ่งเป็นผู้จะถูกจับขัดขืนไม่ยินยอม ผู้ตายก็เพียงแต่ไม่มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่มีสิทธิหรืออำนาจชอบธรรมอันใดที่ผู้ตายจะใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายจำเลยเพราะจำเลยพูดกับผู้ตายขอทำการจับกุม ยังไม่ทันลงมือทำอะไรลงไปผู้ตายก็ใช้มีดแทงจำเลยถึงสองครั้ง ครั้งแรกมีดบาดมือจำเลย จำเลยเอาปืนยิงขู่ 1 นัด ผู้ตายก็หาหยุดยั้งไม่ กลับใช้มีดแทงจำเลยอีกถูกหน้าท้องบาดเจ็บสาหัสจนจำเลยตกจากแคร่ เท่านั้นหาพอไม่ ผู้ตายยังโดดคร่อมจำเลยจะจ้วงแทงอีก พฤติการณ์เช่นนี้ ถ้าหากจำเลยไม่ใช่ปืนยิงผู้ตาย ๆ ก็คงใช้มีดแทงจำเลยจนถึงตายแน่นอน ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นการป้องกันชีวิตตนพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 พิพากษายืน.
(ทองคำ จารุเหติ-ใหญ่ ศาลยาชีวิน-แสวง ลัดพลี)

แหล่งที่มา
กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

แผนก

หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น

หมายเหตุ


หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อ ที่นี้เลย Tel/Line id : 089-2142456 (ทนายสอง ประธานชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
Line id : lawyer_2 ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาข้อกฎหมาย คำพิพากษา ได้ที่ www.ปรึกษาคดีฟรี.com

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US