การเล่นแชร์ เป็นความผิดที่รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย

การเล่นแชร์ เป็นความผิดที่รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย สมาชิกวงแชร์ที่เป็นผู้เสียหายไม่มีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในข้อหาตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ กรรมสิทธิ์ในเงินที่ส่งค่างวดแชร์แล้วมิได้เป็นของสมาชิกวงแชร์อีกต่อไป เจ้ามือแชร์ไม่มีความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2544

เงินค่าแชร์แต่ละงวดที่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมส่งให้จำเลย เมื่อผู้ใดประมูลแชร์ได้ ก็จะตกได้แก่ผู้นั้น กรรมสิทธิ์ในเงินที่ส่งไปแล้วมิได้เป็นของผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมต่อไปอีกและหากผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมไม่สามารถประมูลแชร์ได้เพราะแชร์ล้มเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใด จำเลยในฐานะที่เป็นเจ้ามือแชร์ก็ต้องรับผิดแทน ซึ่งเป็นความผิดในทางแพ่งจำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอก

ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6บัญญัติไว้แต่เพียงว่า ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงเท่านั้นมิได้บัญญัติว่าจะต้องจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มากกว่าสามวงดังกล่าวขึ้นมาพร้อม ๆ กันในวันเดียวกัน จึงจะเป็นความผิด เมื่อจำเลยจัดให้มีการเล่นแชร์โดยมีจำเลยเป็นนายวงแชร์ในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่าสามวงจึงเข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 6

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์พ.ศ. 2534 มาตรา 4,6,17 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352แต่ความผิดตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ เป็นความผิดที่รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย ราษฎรไม่เป็นผู้เสียหาย โจทก์ร่วมคงเป็นผู้เสียหายและเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการได้เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เท่านั้น ไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ในข้อหาตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์

จำเลยเป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์รวม 7 วง จำเลยรวบรวมเงินจากผู้เสียหายและโจทก์ร่วมซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ไปแล้วหลายงวด จำเลยจัดให้มีการประมูลแชร์ไปแล้วหลายงวด โดยสถานที่จัดประมูลแชร์คือที่ร้านของจำเลย การประมูลแชร์ตามวาระมีไปแล้วหลายครั้ง ผู้ที่ประมูลแชร์ได้ต่างก็ได้รับเงินไปแล้ว และตามคำฟ้องโจทก์ ผู้เสียหายและโจทก์ร่วมยังไม่เคยประมูลแชร์ได้จึงยังไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินกองกลางที่จำเลยรวบรวมไป เงินค่าแชร์แต่ละงวดที่ผู้เสียหายและโจทก์ร่วมส่งให้จำเลยไปแล้ว เมื่อผู้ใดประมูลแชร์ได้ก็ย่อมจะตกได้แก่ผู้นั้นไป กรรมสิทธิ์ในเงินที่ส่งไปแล้วมิได้เป็นของผู้เสียหายและโจทก์ร่วมต่อไปอีก และหากผู้เสียหายและโจทก์ร่วมไม่สามารถประมูลแชร์ได้เพราะแชร์ล้มเลิกไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม จำเลยในฐานะที่เป็นเจ้ามือแชร์ก็จะต้องรับผิดแทน ความรับผิดในกรณีเช่นนี้เป็นความผิดในทางแพ่ง ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยยักยอกเงินของผู้เสียหายและโจทก์ร่วม

แม้ตามฟ้องจะปรากฏว่าวันเวลาที่โจทก์อ้างว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นแชร์แต่ละวงจะแตกต่างกันอยู่ และไม่มีวันใดมีการเริ่มเล่นแชร์ขึ้นใหม่พร้อมกันถึง 3 วง ก็ตาม แต่ตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 234 มาตรา 6 บัญญัติไว้แต่เพียงว่าห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงเท่านั้น มิได้บัญญัติว่าจะต้องจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มากกว่าสามวงดังกล่าวขึ้นมาพร้อม ๆ กันในวันเดียวกัน จึงจะเป็นความผิดเมื่อแชร์ที่จำเลยจัดให้มีการเล่นทั้งหมดซึ่งมีจำเลยเป็นนายวงแชร์อยู่มีจำนวนรวมกันอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่า 3 วง ตามที่จำกัดจำนวนไว้ในกฎหมาย ย่อมต้องถือว่าการกระทำของจำเลยเข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 6

พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4, 6, 17 และ ป.อ. มาตรา 352, 91 สำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์เป็นความผิดที่รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย ราษฎรไม่เป็น ผู้เสียหาย โจทก์ร่วมคงเป็นผู้เสียหายและเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้เฉพาะข้อหาตาม ป.อ. มาตรา 352 เท่านั้น ไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในข้อหาตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในข้อหาตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์จึงเป็นการไม่ชอบ แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกปัญหาดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์และฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาได้เป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์รวมกัน 7 วง อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6(1) ดังนี้

แชร์วงที่ 1 มีสมาชิก 27 คน จำนวน 34 หุ้นหรือมือ มือละ3,000 บาท ต่องวด งวดละเดือน สมาชิกที่ร่วมเล่นแต่ละมือต้องส่งเงินแชร์ให้จำเลยรวมเป็นเงินทุนกองกลางงวดละ 102,000บาท จำเลยรับเงินทุนกองกลางงวดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม2537 งวดต่อไปสมาชิกจะหมุนเวียนกันรับเงินทุนกองกลางดังกล่าวโดยการประมูลในวันที่ 25 ของทุกเดือนถัดไป จนครบงวดสุดท้ายวันที่ 25 กรกฎาคม 2540

แชร์วงที่ 2 และที่ 3 มีสมาชิกวงละ 20 คน และ 27 คนตามลำดับ จำนวนวงละ 30 มือ มือละ 1,000 บาท ต่องวดงวดละเดือน สมาชิกที่ร่วมเล่นแต่ละมือต้องส่งเงินแชร์ให้จำเลยรวมเป็นเงินทุนกองกลางงวดละ 30,000 บาท ต่อวง จำเลยรับเงินทุนกองกลางงวดแรกทั้งสองวงไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กันยายน2538 งวดต่อไปสมาชิกจะหมุนเวียนกันรับเงินทุนกองกลางดังกล่าวแต่ละวง โดยการประมูลในวันที่ 4 ของทุกเดือนถัดไป จนครบงวดสุดท้ายทั้งสองวงในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2541

แชร์วงที่ 4 และที่ 5 มีสมาชิกวงละ 21 คน จำนวนวงละ 22 มือมือละ 2,000 บาท ต่องวด งวดละเดือน สมาชิกที่ร่วมเล่นแต่ละมือต้องส่งเงินแชร์ให้จำเลยรวมเป็นทุนกองกลางงวดละ 44,000 บาทต่อวง จำเลยรับเงินทุนกองกลางงวดแรกทั้งสองวงไปแล้วเมื่อวันที่ 15พฤษภาคม 2538 งวดต่อไปสมาชิกจะหมุนเวียนกันรับเงินทุนกองกลางดังกล่าวแต่ละงวด โดยการประมูลในวันที่ 15 ของทุกเดือนถัดไปจนครบงวดสุดท้ายทั้งสองวงในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2540

แชร์วงที่ 6 มีสมาชิก 14 คน จำนวน 14 มือ มือละ 5,000 บาทต่องวด งวดละเดือน สมาชิกที่ร่วมเล่นแต่ละมือต้องส่งเงินแชร์ให้จำเลยรวมเป็นเงินทุนกองกลางงวดละ 70,000 บาท จำเลยรับเงินทุนกองกลางงวดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2539 งวดต่อไปสมาชิกจะหมุนเวียนกันรับเงินทุนกองกลางดังกล่าว โดยการประมูลในวันที่ 4 ของทุกเดือนถัดไปจนครบงวดสุดท้ายวันที่ 4 สิงหาคม 2540

แชร์วงที่ 7 มีสมาชิก 13 คน จำนวน 16 มือ มือละ 2,000 บาทต่องวด งวดละเดือน สมาชิกที่ร่วมเล่นแต่ละมือต้องส่งเงินแชร์ให้จำเลยรวมเป็นเงินทุนกองกลางงวดละ 32,000 บาท จำเลยรับเงินกองกลางงวดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2539 งวดต่อไปสมาชิกจะหมุนเวียนกันรับเงินทุนกองกลางดังกล่าว โดยการประมูลในวันที่ 25 ของทุกเดือนถัดไป จนครบงวดสุดท้ายวันที่ 25 เมษายน 2540

ระหว่างวันเวลาดังกล่าว จำเลยเรียกเก็บเงินค่าแชร์จากนางสาวกิ่งกาญจน์ ศักดา ผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย4 วง เป็นแชร์วงที่ 1 จำนวน 3 มือ เป็นเงินรวม 234,000 บาทแชร์วงที่ 2 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 15,000 บาท แชร์วงที่ 4 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท และแชร์วงที่ 5 จำนวน1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 325,000 บาทจากนางลัดดา สุไลมาน ผู้เสียหาย ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 2 วงเป็นแชร์วงที่ 2 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 15,000 บาท และแชร์วงที่ 3 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 15,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น30,000 บาท จากนางสุจิน โพธิ์หอม ผู้เสียหายที่ 3 ซึ่งรวมเล่นแชร์กับจำเลย 5 วง เป็นแชร์วงที่ 1 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 78,000 บาทแชร์วงที่ 2 จำนวน 3 มือ เป็นเงินรวม 45,000 บาท แชร์ที่ 3 จำนวน 2 มือ เป็นเงินรวม 30,000 บาท แชร์วงที่ 4 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม38,000 บาท และแชร์วงที่ 5 จำนวน 2 มือ เป็นเงินรวม 76,000 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 267,000 บาท จากนางสาวจิตรวิดา ตั้งวีระพรพงศ์ผู้เสียหายที่ 4 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 1 วง เป็นแชร์วงที่ 4 จำนวน1 มือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 38,000 บาท จากนางวลัยรัตน์ มุขจั่นผู้เสียหายที่ 5 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 4 วง เป็นแชร์วงที่ 2 จำนวน2 มือ เป็นเงินรวม 30,000 บาท แชร์วงที่ 3 จำนวน 2 มือ เป็นเงินรวม30,000 บาท แชร์วงที่ 4 จำนวน 2 มือ เป็นเงินรวม 36,000 บาทและแชร์วงที่ 5 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 174,000 บาท จากนางวันดี แซ่เอี้ย ผู้เสียหายที่ 6 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 1 วง เป็นแชร์วงที่ 1 จำนวน 2 มือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 156,000บาท จากนางชู้เค้ง วงศ์วรรุจ ผู้เสียหายที่ 7 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย1 วง เป็นแชร์วงที่ 7 จำนวน 3 มือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 66,000 บาทจากนางสาวสุนันทา หวังสิรินานนท์ ผู้เสียหายที่ 8 ซึ่งร่วมกันเล่นแชร์กับจำเลย 4 วง เป็นแชร์วงที่ 2 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 15,000 บาทแชร์วงที่ 3 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 15,000 บาท แชร์วงที่ 4 จำนวน1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท และแชร์วงที่ 5 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม38,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 106,000 บาท จากนางสุนีย์ รัศมีเฟื่องฟูผู้เสียหายที่ 9 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 4 วง เป็นแชร์วงที่ 2 จำนวน 1 มือเป็นเงินรวม 15,000 บาท แชร์วงที่ 4 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 38,000บาท แชร์วงที่ 5 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท และแชร์วงที่ 7จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 113,000 บาทจากนางสาวฝันจิต เอี่ยมสกุลยง ผู้เสียหายที่ 10 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย3 วง เป็นแชร์วงที่ 4 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท แชร์วงที่ 5จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 38,000 บาท และแชร์วงที่ 7 จำนวน 2 มือเป็นเงินรวม 44,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท จากนางมะลิฉิมสุโข ผู้เสียหายที่ 11 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 3 วง เป็นแชร์วงที่ 1จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 78,000 บาท แชร์วงที่ 2 จำนวน 2 มือเป็นเงินรวม 30,000 บาท และแชร์วงที่ 3 จำนวน 2 มือ เป็นเงินรวม30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 138,000 บาท และจากนางสุดใจเอี่ยมสกุลยง ผู้เสียหายที่ 12 ซึ่งร่วมเล่นแชร์กับจำเลย 4 วง เป็นแชร์วงที่ 1 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 78,000 บาท แชร์วงที่ 2 จำนวน1 มือ เป็นเงินรวม 15,000 บาท แชร์วงที่ 3 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม15,000 บาท และแชร์วงที่ 6 จำนวน 1 มือ เป็นเงินรวม 25,000 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 133,000 บาท แล้วจำเลยยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวของผู้เสียหายทั้งสิบสองซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,352 พระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4, 6, 17 และให้จำเลยคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายทั้งสิบสองตามจำนวนเงินที่จำเลยยักยอกจากผู้เสียหายแต่ละคนไป

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา นางสุนีย์ รัศมีเฟื่องฟู ผู้เสียหายที่ 9 ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6(1), 17 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานเป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 6 เดือน กระทงหนึ่งฐานยักยอกทรัพย์ผู้เสียหายทั้งสิบสอง เป็นความผิดสิบสองกรรมสิบสองกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 6 เดือน เฉพาะข้อหาความผิดฐานเป็นนายวงแชร์ฯ คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เป็นจำคุก 4 เดือน รวมสิบสามกระทง จำคุก 76 เดือน กับให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน325,000 บาท ผู้เสียหายที่ 2 จำนวน 30,000 บาท ผู้เสียหายที่ 3จำนวน 267,000 บาท ผู้เสียหายที่ 4 จำนวน 38,000 บาท ผู้เสียหายที่ 5 จำนวน 174,000 บาท ผู้เสียหายที่ 6 จำนวน 156,000 บาท ผู้เสียหายที่ 7 จำนวน 66,000 บาท ผู้เสียหายที่ 8 จำนวน 106,000บาท โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ 9 จำนวน 113,000 บาท ผู้เสียหายที่ 10 จำนวน 120,000 บาท ผู้เสียหายที่ 11 จำนวน 138,000 บาทและผู้เสียหายที่ 12 จำนวน 133,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคหนึ่ง และให้ยกคำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟังได้ว่า จำเลยเป็นนายวงแชร์ จัดให้มีการเล่นแชร์รวม 7 วง จำเลยรวบรวมเงินจากผู้เสียหายที่ 1 ถึงที่ 8 ที่ 10 ถึงที่ 12 และโจทก์ร่วมซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ไปแล้วหลายงวด แต่ทุกคนยังไม่เคยประมูลแชร์ได้รวมยอดเงินที่จำเลยเก็บไปจากผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมมากถึงหนึ่งล้านบาทเศษแล้ว แชร์ล้มมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเงินค่าแชร์แต่ละงวดที่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมส่งให้จำเลยโดยที่ยังไม่มีใครประมูลแชร์ ย่อมตกได้แก่ผู้ที่ชนะการประมูลแชร์ในงวดนั้น ๆ กรรมสิทธิ์ในเงินดังกล่าวจึงมิได้เป็นของผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมต่อไป โจทก์เห็นว่า หากมีการประมูลแชร์แล้ว เงินจำนวนดังกล่าวย่อมตกได้แก่ผู้ที่ประมูลแชร์ได้จริง แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าเงินที่จำเลยเรียกเก็บไปนั้นยังไม่มีการประมูลแชร์ เงินค่าแชร์ที่จำเลยเรียกเก็บจากลูกวงยังเป็นของลูกวงทุกคนอยู่ เพียงแต่จำเลยเป็นผู้ครอบครองเงินจำนวนดังกล่าวไว้เท่านั้น การที่จำเลยเรียกเก็บเงินค่าแชร์จากลูกวงทุกคนไว้ในครอบครอง แต่ไม่จัดให้มีการประมูลแชร์เพื่อให้ลูกวงรับเงินทุนกองกลางค่าแชร์แต่ละงวดไปกลับเบียดบังเอาเงินค่าแชร์ดังกล่าวไป ย่อมเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์นั้นเห็นว่า ตามที่โจทก์ฎีกามาเท่ากับอ้างว่าจำเลยไม่เคยจัดให้มีการประมูลแชร์เลย ได้แต่เรียกเก็บเงินไปไว้ที่จำเลยแล้วเบียดบังเอาเงินทั้งหมดนั้นไป แต่ตามทางนำสืบของโจทก์เองกลับปรากฏว่าพยานโจทก์ที่นำสืบหลายปากล้วนแต่เบิกความว่าจำเลยจัดให้มีการประมูลแชร์ไปแล้วหลายงวด โดยสถานที่จัดประมูลแชร์คือที่ร้านของจำเลยข้อเท็จจริงจึงมิได้เป็นไปดังที่โจทก์กล่าวอ้าง การประมูลแชร์ตามวาระมีไปแล้วหลายครั้ง เพียงแต่แชร์ล้มเสียก่อนที่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมประมูลได้ ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ที่ประมูลแชร์ได้ต่างก็ได้รับเงินไปแล้ว มิใช่ว่ายังไม่เคยมีผู้ใดได้รับเงินกองกลางไป และตามคำฟ้องโจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินในงวดหลัง ๆ ในช่วงเวลาที่การเล่นแชร์เริ่มจะไม่มั่นคงซึ่งอาจมีปัญหาในเรื่องการละเลยไม่จัดประมูลแชร์ได้แต่ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินทั้งหมดที่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมส่งไปซึ่งขัดต่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมยังไม่เคยประมูลแชร์ได้ จึงยังไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินกองกลางที่จำเลยรวบรวมไป เงินค่าแชร์แต่ละงวดที่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมส่งให้จำเลยไปแล้ว เมื่อผู้ใดประมูลแชร์ได้ ก็ย่อมจะตกได้แก่ผู้นั้นไปกรรมสิทธิ์ในเงินที่ส่งไปแล้วมิได้เป็นของผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมต่อไปอีก และหากผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมไม่สามารถประมูลแชร์ได้เพราะแชร์ล้มเลิก ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตามจำเลยในฐานะที่เป็นเจ้ามือแชร์ก็จะต้องรับผิดแทน ซึ่งความรับผิดในกรณีเช่นนี้เป็นความรับผิดในทางแพ่ง ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยยักยอกเงินของผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมดังที่โจทก์กล่าวหาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานยักยอกชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของจำเลยว่าการกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบของความผิดตามกฎหมายหรือไม่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกัน7 วง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534มาตรา 6(1) ซึ่งบัญญัติห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นแชร์รวมเจ็ดวงเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องวงแชร์ 7 วง นั้น แต่ละวงเริ่มเล่นในวันเวลาต่างกัน วันเกิดเหตุที่กระทำความผิดจะต้องเป็นวันเดียวกัน เมื่อแชร์แต่ละวงเล่นกันคนละวัน ซึ่งไม่เกินสามวงจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิด เห็นว่า แม้ตามฟ้องจะปรากฏว่าวันเวลาที่โจทก์อ้างว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นแชร์แต่ละวงจะแตกต่างกันอยู่ และไม่มีวันใดมีการเริ่มเล่นแชร์ขึ้นใหม่พร้อมกันถึง 3 วงก็ตาม แต่ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6นั้นได้บัญญัติไว้แต่เพียงว่า ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวงเท่านั้นมิได้บัญญัติว่าจะต้องจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มากกว่าสามวงดังกล่าวขึ้นมาพร้อม ๆ กันในวันเดียวกัน จึงจะเป็นความผิด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า แชร์ที่จำเลยจัดให้มีการเล่นทั้งหมดซึ่งมีจำเลยเป็นนายวงแชร์อยู่นั้น มีจำนวนรวมกันอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่าสามวงตามที่จำกัดจำนวนไว้ในกฎหมาย ย่อมต้องถือว่าการกระทำของจำเลยเข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 6 นี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน

อนึ่ง คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4, 6, 17 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 91 สำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์เป็นความผิดที่รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย ราษฎรไม่เป็นผู้เสียหายโจทก์ร่วมคงเป็นผู้เสียหายและเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เท่านั้น ไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในข้อหาตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์แต่อย่างใด ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในข้อหาตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ด้วยนั้น จึงเป็นการไม่ชอบแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกปัญหาดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์และฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาจึงยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง"

พิพากษายืน แต่ให้ยกคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในข้อหาตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์

( อภิชาต สุขัคคานนท์ - อรพินท์ เศรษฐมานิต - รุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์ )

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่น เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคล ที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์ สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียง กึ่งหนึ่ง

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้
(1).....(4) "ผู้เสียหาย" หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจ จัดการแทนได้ดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา 4, มาตรา 5 และ มาตรา 6
(5).....

มาตรา 30 คดีอาญาใดซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระยะใดระหว่าง พิจารณาก่อน ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นก็ได้

พระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ.2534

มาตรา 6 ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

(1) เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง

(2) มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน

(3) มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง

(4) นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์นั้นได้รับประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่จะได้รับทุนกองกลางในการเข้าร่วมเล่นแชร์ในงวดหนึ่งงวดใดได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ให้ถือว่าผู้ที่สัญญาว่าจะใช้เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดแทนนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ เป็นนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ด้วย

มาตรา 17 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 6 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US