ผู้รับปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ,ถอนคืนการให้

ผู้ให้ขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิตผู้รับปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ
ในการถอนคืนการให้นั้นจะต้องมีเหตุฟังได้ว่าผู้รับประพฤติเนรคุณอย่างไร และผู้ให้ขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิตอย่างไร และต้องได้ความด้วยว่าผู้ให้ร้องขอความช่วยเหลือ แล้วผู้รับอยู่ในฐานะจะให้ได้ด้วย และให้แล้วไม่เดือดร้อนด้วย ในคดีนี้ผู้รับการให้ที่ดินต้องการขายที่ดิน แต่ผู้ให้ห้ามปราม ผู้รับหนีไปอยู่ที่อื่น อย่างนี้ยังไม่ถือว่าประพฤติเนรคุณ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2551

เหตุที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุที่จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประพฤติเนรคุณตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 (3) นั้น จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ให้มีความจำเป็นเพราะขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิต แล้วผู้ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้รับและผู้รับอยู่ในฐานะที่จะให้ได้โดยไม่เดือดร้อน แล้วผู้รับปฏิเสธที่จะให้นั้น การที่จำเลยจะขายที่ดินที่โจทก์ยกให้แต่ถูกโจทก์ห้ามปราม จำเลยจึงไปอยู่เสียที่อื่นจนโจทก์ต้องไปอาศัยอยู่กับน้องสาวนั้น จะฟังว่าโจทก์ได้ขอความช่วยเหลือจากจำเลยและจำเลยอยู่ในฐานะที่จะให้ความช่วยเหลือโจทก์ได้โดยไม่เดือดร้อน แล้วจำเลยไม่ช่วยเหลือหาได้ไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติเนรคุณโจทก์ตามฟ้อง

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยกที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 4870 ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง (ที่ถูกเป็น กิ่งอำเภอควนเนียง) จังหวัดสงขลา พร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่จำเลยโดยเสน่หา ต่อมาโจทก์แก่ตัวและยากจนลงจนไม่สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ ในปี 2543 โจทก์ขอให้จำเลยช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์ แต่จำเลยซึ่งอยู่ในวิสัยที่จะช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์ได้กลับไม่ได้ช่วยเหลือและทอดทิ้งโจทก์ให้อยู่ตามลำพัง จนโจทก์ต้องมาอาศัยอยู่กับน้องสาวของโจกท์ ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนเพิกถอนการให้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์เพราะเหตุเนรคุณ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และให้จำเลยคืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษากลับ ให้ถอนคืนการให้และให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 4870 ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง (ที่ถูกเป็น กิ่งอำเภอควนเนียง) จังหวัดสงขลา พร้อมบ้านบนที่ดินดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์ตามเดิม หากจำเลยไม่ไปดำเนินการ ให้ถือเอาคำพิพากษาศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยคืนเอกสารสิทธิหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2540 โจทก์ยกที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 4870 ตำบลรัตภูมิ กิ่งอำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา เนื้อที่ 83 ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) และหนังสือสัญญาให้ที่ดินให้แก่จำเลยต่อมาจำเลยจะขายที่ดินที่โจทก์ยกให้แต่โจทก์ไม่ยอมโดยบอกจำเลยว่า หากขายแล้วโจทก์จะไม่มีที่อยู่ หลังจากนั้นจำเลยก็ไปอยู่เสียที่อื่นไม่เคยมาหาโจทก์อีก โจทก์ต้องไปอาศัยอยู่กับนางอารีย์น้องสาวโจทก์ มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า โจทก์จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยผู้รับประพฤติเนรคุณตามฟ้องได้หรือไม่ เห็นว่า เหตุที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุที่จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประพฤติเนรคุณตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (3) นั้น จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ให้มีความจำเป็นเพราะขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิต แล้วผู้ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้รับ และผู้รับอยู่ในฐานะที่จะให้ได้โดยไม่เดือดร้อน แล้วผู้รับปฏิเสธที่จะให้นั้น เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบความข้อนี้ แต่ข้อเท็จจริงตามทางนำสืบของโจทก์นั้น ไม่ปรากฏเลยว่าโจทก์เคยขอความช่วยเหลือจากจำเลยและจำเลยอยู่ในฐานะที่จะให้ความช่วยเหลือได้โดยไม่เดือดร้อนแล้วจำเลยปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด การที่จำเลยจะขายที่ดินที่โจทก์ยกให้แต่ถูกโจทก์ห้ามปรามจำเลยจึงไปอยู่เสียที่อื่น จนโจทก์ต้องไปอาศัยอยู่กับน้องสาวนั้น จะฟังว่าโจทก์ได้ขอความช่วยเหลือจากจำเลยและจำเลยอยู่ในฐานะที่จะให้ความช่วยเหลือได้โดยไม่เดือดร้อนแล้วจำเลยไม่ช่วยเหลือหาได้ไม่ ส่วนที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การนั้นก็มิได้มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ถือว่าจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้องของโจทก์แต่อย่างใด ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้ประพฤติเนรคุณโจทก์ตามฟ้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (3) ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

( สมชัย เกษชุมพล - บุญรอด ตันประเสริฐ - สนอง เล่าศรีวรกต )

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติหลักเกณฑ์การถอนคืนการให้ไว้ในมาตรา 531 ดังนี้

มาตรา 531 "อันผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น ท่านว่าอาจจะเรียกได้แต่เพียงในกรณีดั่งจะกล่าวต่อไปนี้
(1) ถ้าผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรง ตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา หรือ
(2) ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้าย แรง หรือ
(3) ถ้าผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้"

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US