หลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระได้

คำสั่งปลดจากล้มละลายทำให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระได้นั้นมีความหมายว่า เมื่อบุคคลล้มละลายคนใดได้รับการปลดจากล้มละลายแล้ว บุคคลนั้นย่อมหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แต่เมื่อคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิของเจ้าหนี้มีประกันแม้ปลดจากล้มละลายแล้วก็ไม่หลุดพ้นจากหนี้จำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2552

คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิของเจ้าหนี้มีประกันตามความในมาตรา 110 วรรคสาม โจทก์ในคดีนี้เป็นเจ้าหนี้มีประกันเหนือทรัพย์สินซึ่งจำนองของจำเลยที่ 4 จึงย่อมมีสิทธิที่จะเลือกยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายที่จำเลยที่ 4 ถูกศาลแพ่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดหรือไม่ก็ได้ สุดแท้แต่โจทก์จะเห็นสมควรว่าวิธีการใดจะเหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่ตนมากกว่ากัน เมื่อโจทก์ไม่ขอรับชำระหนี้ในคดีที่จำเลยที่ 4 ถูกฟ้องล้มละลายแล้วเช่นนี้ หนี้ที่จำเลยที่ 4 มีอยู่แก่โจทก์ในคดีนี้จึงไม่ใช่หนี้อันพึงขอรับชำระหนี้ได้ตามนัยแห่งมาตรา 77 ดังกล่าว ข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยที่ 4 ได้รับการปลดจากล้มละลายแล้ว จึงไม่ทำให้จำเลยที่ 4 หลุดพ้นจากหนี้จำนองที่มีอยู่แก่โจทก์ในคดีนี้แต่อย่างใด

คดีสืบเนื่องมาจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ 3,627,267.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 14.5 ต่อปี ในต้นเงิน 2,133,499.34 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดในวงเงิน 2,000,000 บาท จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดในวงเงิน 1,500,000 บาท จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดในวงเงิน 2,500,000 บาท จำเลยที่ 5 และที่ 6 ร่วมรับผิดในวงเงินคนละ 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราขึ้นลงตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยนับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาทรัสต์รีซีทระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2542 และดอกเบี้ยร้อยละ 14.5 ต่อปี ในต้นเงินที่จำเลยแต่ละคนต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 นับแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2542 จนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยคนใดบิดพลิ้ว ให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 224911 ตำบลคลองจั่น อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ที่ดินโฉนดเลขที่ 134590 ตำบลคลองตัน (ที่ 8 พระโขนงฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร และที่ดินโฉนดเลขที่ 227617 ตำบลคลองกุ่ม อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแต่ละแปลงออกขายทอดตลาดใช้หนี้ ถ้าเงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใด ให้โจทก์ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยเหล่านั้นออกขายทอดตลาดใช้หนี้จนกว่าจะครบ

จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งงดขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 227617 ตำบลคลองกุ่ม อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ตนจำนองเป็นประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 เนื่องจากจำเลยที่ 4 ซึ่งถูกฟ้องล้มละลายตามคดีหมายเลขแดงที่ล.311/2542 ของศาลแพ่ง และถูกพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2543 แต่ต่อมาได้รับการปลดจากล้มละลายแล้วเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 จึงหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 77 รวมทั้งหนี้ในคดีนี้

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งยกคำร้องให้ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า แม้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 77 จะบัญญัติว่า “คำสั่งปลดจากล้มละลาย ทำให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระได้...” ซึ่งมีความหมายว่า เมื่อบุคคลล้มละลายคนใดได้รับการปลดจากล้มละลายแล้ว บุคคลนั้นย่อมหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนด ไม่ว่าหนี้นั้นจะเป็นหนี้สามัญหรือหนี้มีประกันที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ โดยสละสิทธิที่มีอยู่เหนือทรัพย์อันเป็นหลักประกันนั้นก็ตาม แต่เมื่อคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิของเจ้าหนี้มีประกันตามความในมาตรา 110 วรรคสาม โจทก์ในคดีนี้ผู้เป็นเจ้าหนี้มีประกันเหนือทรัพย์สินซึ่งจำนองของจำเลยที่ 4 จึงย่อมมีสิทธิเลือกที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายที่จำเลยที่ 4 ถูกศาลแพ่งสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดหรือไม่ก็ได้ สุดแท้แต่โจทก์จะเห็นสมควรว่าวิธีการใดจะเหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่ตนมากกว่ากัน เพราะหากขอรับชำระหนี้ร่วมกับเจ้าหนี้สามัญก็จะต้องสละสิทธิที่จะพึงได้รับชำระหนี้จากหลักประกันนั้นก่อนเจ้าหนี้รายอื่น แต่ถ้าไม่ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเพราะเห็นว่าหลักประกันที่มีอยู่นั้นคุ้มกับจำนวนหนี้ โจทก์ก็ยังคงครองสิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันอยู่ในลำดับเดิมต่อไป เมื่อโจทก์ไม่ขอรับชำระหนี้ในคดีที่จำเลยที่ 4 ถูกฟ้องล้มละลายแล้วเช่นนี้ หนี้ที่จำเลยที่ 4 มีอยู่แก่โจทก์ในคดีนี้จึงไม่ใช่หนี้อันพึงขอรับชำระได้ตามนัยแห่งมาตรา 77 ดังกล่าว ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยที่ 4 ได้รับการปลดจากล้มละลายแล้ว จึงไม่ทำให้จำเลยที่ 4 หลุดพ้นจากหนี้จำนองที่มีอยู่แก่โจทก์ในคดีนี้แต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองของจำเลยที่ 4 จึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ให้ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้เป็นพับ.

( ธนพจน์ อารยลักษณ์ - พลรัตน์ ประทุมทาน - พรเพชร วิชิตชลชัย )
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง - นางเสาวลักษณ์ จุลมนต์
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 77, 95, 110

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US