(สัญญาเช่าซื้อรถยนต์) ตกลงค่าเบี้ยปรับสูงเกินส่วน

(สัญญาเช่าซื้อรถยนต์) ตกลงค่าเบี้ยปรับสูงเกินส่วน
ผู้เช่าซื้อผิดนัดตกลงจะต้องเสียค่าปรับวันละ 100 บาท จนกว่าจะชำระเสร็จเท่ากับ ผู้เช่าซื้อต้องเสียค่าปรับ 803 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งคิดเป็นเงิน 113,900 บาท และดอกเบี้ยล่าช้าอีก 50,000 บาท เป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ เห็นสมควรกำหนดให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าปรับให้แก่ ผู้ให้เช่าซื้อ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น เพียง 10,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2549

ตามสัญญาเช่าซื้อโจทก์ต้องชำระค่าเช่าซื้อให้จำเลยโดยผ่อนชำระเป็นระยะเวลา 20 เดือน เป็นรายวัน วันละ 650 บาท ทุก 7 วัน เป็นเงิน 4,550 บาท หากไม่ส่งตามที่กำหนดปรับวันละ 100 บาท ปรับทุกครั้งไปจนกว่าชำระเสร็จให้แก่จำเลย เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ การชำระค่าเช่าซื้อของโจทก์ชำระงวดละ 4,550 บาท ทุก 7 วัน ถ้าโจทก์ผิดนัดจะต้องเสียค่าปรับวันละ 100 บาท จนกว่าจะชำระเสร็จเท่ากับโจทก์ต้องเสียค่าปรับ 803 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคหนึ่ง

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2541 โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์หมายเลขทะเบียน 8 ท ? 7851 กรุงเทพมหานคร ไปจากจำเลย และโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนให้โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 8 ท ? 7851 กรุงเทพมหานคร แก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแสดงแทนเจตนาจำเลย กับให้ชำระค่าเสียหายวันละ 100 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนรถยนต์ที่เช่าซื้อแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์ผิดสัญญาเช่าซื้อเพราะค้างชำระค่าเช่าซื้อเกินกว่าสองงวดติดต่อกัน จำเลยบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้วระหว่างผ่อนชำระค่าเช่าซื้อโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อล่าช้า จำเลยจึงนำเอาเงินที่โจทก์ชำระไปหักเป็นค่าปรับ เป็นเหตุให้โจทก์ยังคงค้างชำระค่าเช่าซื้ออยู่อีกประมาณ 200,000 บาท สัญญาเช่าซื้อเป็นโมฆะ เนื่องจากจำเลยไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อ เจ้าของที่แท้จริงคือ สหกรณ์ธนบุรีแท็กซี่ จำกัด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 8 ท ? 7851 กรุงเทพมหานคร ให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงแทนเจตนาจำเลย กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ?เห็นว่า ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แสดงว่าโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว แต่ยังคงค้างชำระค่าปรับ ปัญหาที่ว่าโจทก์ค้างชำระค่าปรับกรณีชำระค่าเช่าซื้อล่าช้าหรือไม่ และต้องชำระค่าปรับให้แก่จำเลยหรือไม่เพียงใด เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับประเด็นที่ว่าโจทก์ค้างชำระค่าเช่าซื้อแก่จำเลยหรือไม่ ประกอบกับคู่ความได้นำสืบข้อเท็จจริงในเรื่องค่าปรับไว้แล้ว เพื่อความสะดวกและรวดเร็วและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงเห็นสมควรยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยไปเสียทีเดียว ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตรงกันว่า โจทก์ยังค้างชำระค่าปรับ โจทก์ฎีกาโดยไม่โต้แย้งข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงว่าโจทก์ยังค้างชำระค่าปรับแก่จำเลยตามสัญญาจริง แต่โจทก์ฎีกาว่าการคิดค่าปรับตามสัญญาเช่าซื้อ เอกสารหมาย จ. 1 เป็นการเรียกค่าปรับสูงเกินไป จึงมีปัญหาว่าค่าปรับตามสัญญาเอกสารหมาย จ. 1 เป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนหรือไม่ โจทก์เบิกความว่า จำเลยคิดเบี้ยปรับกรณีชำระค่าเช่าซื้อล่าช้าวันละ 100 บาท คิดเป็น 66 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน หรือ 803 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ส่วนจำเลยเบิกความว่า คดีนี้โจทก์ส่งเงินล่าช้าและขอร้องจำเลยให้นำเงินดังกล่าวไปชำระค่าเช่าซื้อก่อน เมื่อชำระค่าเช่าซื้อครบแล้ว จึงจะหาเงินมาชำระค่าเบี้ยปรับและดอกเบี้ยภายหลัง จำเลยตกลงแต่จะขอคิดเบี้ยปรับและดอกเบี้ยในการส่งค่าเช่าซื้องวดสุดท้าย โจทก์ชำระค่าเช่าซื้อล่าช้าเป็นเวลา 2,139 วัน คิดค่าปรับวันละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 113,900 บาท และโจทก์ยังค้างชำระดอกเบี้ยล่าช้าอีก 50,000 บาท แต่จำเลยขอคิดเพียง 200,000 บาท เห็นว่า ตามสัญญาเช่าซื้อ เอกสารหมาย จ. 1 ข้อ 1 โจทก์ต้องชำระค่าเช่าซื้อให้จำเลยโดยผ่อนชำระค่าเช่าซื้อเป็นระยะเวลา 20 เดือน เป็นรายวัน วันละ 650 บาท ทุก 7 วัน เป็นเงิน 4,550 บาท หากไม่ส่งตามที่กำหนดปรับวันละ 100 บาท ปรับทุกครั้งไปจนกว่าชำระเสร็จให้แก่จำเลย ข้อสัญญาดังกล่าวเป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ การชำระค่าเช่าซื้อของโจทก์ชำระงวดละ 4,550 บาท ทุก 7 วัน ถ้าโจทก์ผิดนัดจะต้องเสียค่าปรับวันละ 100 บาท จนกว่าจะชำระเสร็จเท่ากับโจทก์ต้องเสียค่าปรับ 803 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยมิได้นำสืบให้ปรากฏแน่ชัดว่าจำเลยได้รับความเสียหายจากการผิดนัดมากน้อยเพียงใด ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจจึงเห็นสมควรกำหนดให้โจทก์ชำระค่าปรับให้แก่จำเลยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,000 บาท ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจยังไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน?
พิพากษากลับว่า ให้จำเลยดำเนินการจดทะเบียนโอนรถยนต์หมายเลขทะเบียน 8 ท ? 7851 กรุงเทพมหานคร ให้แก่โจทก์ โดยให้โจทก์ชำระค่าปรับแก่จำเลยเป็นเงิน 10,000 บาท ก่อน หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ.
( มานัส เหลืองประเสริฐ - สุรพล เจียมจูไร - ปัญญารัตน์ วิระยะวานิช )

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 383 ถ้าเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ ในการที่จะวินิจฉัยว่าสมควรเพียงใดนั้น ท่านให้พิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สิน เมื่อได้ใช้เงินตามเบี้ยปรับแล้วสิทธิเรียกร้องขอลดก็เป็นอันขาดไป
นอกจากกรณีที่กล่าวไว้ในมาตรา 379 และ มาตรา 382 ท่านให้ใช้วิธีเดียวกันนี้บังคับในเมื่อบุคคลสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อตนกระทำหรืองดเว้นกระทำการอันหนึ่งอันใดนั้นด้วย

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US