อายุความคดีความผิดฐานฉ้อโกง

อายุความคดีความผิดฐานฉ้อโกง
ความผิดฐานฉ้อโกง เป็นความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือน มิฉะนั้นคดีเป็นอันขาดอายุความ การที่ผู้เสียหายอ้างว่า ยังไม่แน่ใจว่าจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากมอบรังนกนางแอ่นและไม่จันทร์หอมให้จำเลยแล้ว จำเลยบอกให้ผู้เสียหายรอรับเงินอยู่ที่ลานจอดรถซึ่งเป็นสถานที่ส่งมอบสินค้า ผู้เสียหายจึงรอจำเลยอยู่บริเวณดังกล่าว ตั้งแต่เวลาประมาณ 16 ถึง 17 นาฬิกา จนกระทั่งเที่ยงคืนจำเลยก็ไม่ไปตามนัด และจำเลยยังปิดเครื่องโทรศัพท์ของจำเลยเสียอีก พฤติการณ์ดังกล่าวผู้เสียหายควรจะรู้เสียตั้งแต่ในขณะนั้นว่าจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงตน เมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคดีจึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2552

พนักงานอัยการจังหวัดชุมพร โจทก์

โจทก์ร่วมรู้ว่าจำเลยเจตนาฉ้อโกงตนในวันใดอายุความร้องทุกข์ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันนั้น การที่โจทก์ร่วมพยายามโทรศัพท์ถึงจำเลยอีกหลายครั้งหลายหนในเวลาต่อมาทั้งๆ ที่จำเลยรับบ้างไม่รับบ้าง หรือบางครั้งรับปากว่าจะนำเงินไปชำระแต่แล้วก็ผิดนัดเป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมผ่อนผันหรือให้โอกาสแก่จำเลย ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเพิ่งทราบถึงการกระทำความผิดของจำเลย

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันใดไม่ปรากฏชัด กลางเดือนสิงหาคม 2543 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 26 มกราคม 2544 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยโดยทุจริต หลอกลวงนายสุวรรณ ผู้เสียหาย ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่ามีบุคคลอื่นมาติดต่อขอซื้อรังนกนางแอ่น ในราคากิโลกรัมละ 75,000 บาท และไม้จันทร์หอม ในราคากิโลกรัมละ 55,000 บาท ซึ่งความจริงแล้ว ไม่มีบุคคลอื่นมาขอซื้อรังนกนางแอ่นและไม้จันทร์หอมแต่อย่างใดและในการหลอกลวงดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ส่งมอบรังนกนางแอ่นจำนวน 9 กิโลกรัม ราคา 675,000 บาท และไม้จันทร์หอมจำนวน 1.5 กิโลกรัม ราคา 82,500 บาท รวมราคา 757,500 บาท ให้แก่จำเลย แล้วจำเลยนำรังนกนางแอ่นและไม้จันทร์หอมของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ให้จำเลยคืนรังนกนางแอ่นจำนวน 9 กิโลกรัม และไม้จันทร์หอมจำนวน 1.5 กิโลกรัม หรือใช้ราคา 757,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา นายสุวรรณ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 จำคุก 1 ปี ให้จำเลยคืนรังนกนางแอ่นจำนวน 9 กิโลกรัม และไม้จันทร์หอมจำนวน 1.5 กิโลกรัม หรือใช้ราคา 757,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่ เห็นว่า ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 เป็นความผิดอันยอมความได้ โจทก์ร่วมต้องร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้นคดีเป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 ที่โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกาทำนองว่า เหตุที่โจทก์ร่วมมิได้ร้องทุกข์ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2543 เป็นเพราะจำเลยเคยยืมเงินหรือทรัพย์สินของโจทก์ร่วมไปแล้วมักจะผิดนัด ต้องให้โจทก์ร่วมติดตามทวงถามหลายครั้ง ทำให้โจทก์ร่วมยังไม่แน่ใจว่าจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงหรือไม่จนกระทั่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 จำเลยอ้างต่อพันตำรวจโทบุญเลิศ ว่าได้ให้เงินโจทก์ร่วมแล้ว 300,000 บาท โจทก์ร่วมจึงแน่ใจว่า จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงโจทก์ร่วมมาแต่ต้น ต้องถือว่าโจทก์ร่วมรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 นั้น เห็นว่า ตามคำเบิกความโจทก์ร่วมและนางนันทิยา ภริยาของโจทก์ร่วมได้ความว่า หลังจากมอบรังนกนางแอ่นและไม่จันทร์หอมให้จำเลยแล้ว จำเลยบอกให้โจทก์ร่วมรอรับเงินอยู่ที่ลานจอดรถซึ่งเป็นสถานที่ส่งมอบสินค้านั่นเอง โจทก์ร่วมและนางนันทิยาจึงรอจำเลยอยู่บริเวณดังกล่าว ตั้งแต่เวลาประมาณ 16 ถึง 17 นาฬิกา จนกระทั่งเที่ยงคืนจำเลยก็ไม่ไปตามนัด เมื่อโจทก์ร่วมโทรศัพท์ติดต่อไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลย จำเลยก็ปิดเครื่องโทรศัพท์ของจำเลยเสีย พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวโจทก์ร่วมควรจะรู้เสียตั้งแต่ในขณะนั้นแล้วว่าจำเลยเจตนาฉ้อโกงตน การที่โจทก์ร่วมพยายามโทรศัพท์ถึงจำเลยอีกหลายครั้งหลายหนในเวลาต่อมาทั้งๆ ที่จำเลยรับบ้างไม่รับบ้าง หรือบางครั้งรับปากว่าจะนำเงินไปชำระแต่แล้วก็ผิดนัด เป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมผ่อนผันหรือให้โอกาสแก่จำเลย ซึ่งถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเพิ่งทราบหรือแน่ใจถึงการกระทำของจำเลยในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 อันเป็นวันที่จำเลยอ้างต่อพันตำรวจโทบุญเลิศว่าได้ให้เงินโจทก์ร่วมแล้วแต่อย่างใด การร้องทุกข์ของโจทก์ร่วมในวันที่ 23 มีนาคม 2544 จึงเป็นการร้องทุกข์เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่โจทก์ร่วมรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้วคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาชอบแล้ว”

พิพากษายืน

( เฉลียว พลวิเศษ - พิทักษ์ คงจันทร์ - ตรีวุฒิ สาขากร )
ป.อ. มาตรา 96
มาตรา 96 ภายใต้บังคับ มาตรา 95 ในกรณีความผิดอันยอมความ ได้ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความ ผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US