ฎีกาขอให้ลดมาตราส่วนโทษ

ฎีกาขอให้ลดมาตราส่วนโทษ
ศาลอุทธรณ์แก้มาตราส่วนโทษเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและลงโทษจำเลยแต่ละกระทงไม่เกินห้าปี ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง การฎีกาขอให้ลดมาตราส่วนโทษเป็นการโต้เถียงดุลพินิจการกำหนดโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2552

ความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงและฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เฉพาะโทษโดยลดมาตราส่วนโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 76 แม้จะยกฟ้องความผิดฐานอื่นซึ่งเป็นบทเบากว่าและศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นความผิดกรรมเดียวกันกับความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวด้วย ก็เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยฎีกาให้ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 276, 284, 310, 318

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง, 284 วรรคแรก, 310 วรรคแรก และ 318 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงกับฐานหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 15 ปี ฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยกับฐานร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสาม ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3 ปี รวมจำคุก 18 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง, 318 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง จำคุก 10 ปี ฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 12 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี ข้อหาอื่นให้ยก

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงกับฐานหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 15 ปี ฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยกับฐานร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสาม ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 3 ปี รวมจำคุก 18 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 9 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง จำคุก 10 ปี ฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 12 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 ปี ยกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและฐานร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ดังนี้ในความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงและฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เฉพาะโทษโดยลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยฎีกาขอให้ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าวที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยมานั้นไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาของจำเลย.

( บุญส่ง โพธิ์พุทธชัย - ธานิศ เกศวพิทักษ์ - สิงห์พล ละอองมณี )

ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา - นายมนต์ชัย ชนินทรลีลา
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 - นายธีระ เบญจรัศมีโรจน์
ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง
ป.อ. มาตรา 76

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US